วันอาทิตย์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

เตารีดพกพา

  • มาแนะนำ "เตารีดพกพา" ครับ
  • เหมาะสำหรับคนที่ชอบเดินทาง ไปประชุม มีเสื้อเชิ้ต ต้องการความเนี้ยบ แต่ ไม่อยากพกของหนัก ไม่อยากจ้างโรงแรมซัก
  • ต้องตัวนี้เลยครับ เตารีดพกพาฟิลิปส์ fold-flat travel iron
  • เครื่องนี้ได้มาจากเซ็นทรัลศาลายา ราคา ๑,๐๙๐ บาท

ในกล่องจะมีเตารีดและถุงผ้า (รองรีด?) แถมให้ ข้างในมีใบรับประกัน ๒ ปี

ตัวเตารีด สวยงาม บางเบา ปรับความร้อนได้ ๓ ระดับ ร้อนเร็วพอสมควร

หน้าเตารีด ปุ่มดำด้านล่างสามารถปรับไฟให้ใช้ได้ทั่วโลก

กางด้ามจับออกมาแล้วจะเป็นแบบนี้ครับ

เวลาไปซื้อ ก็สังเกตกล่องนี้เป็นสำคัญ

ทดลองแล้ว ร้อนเร็ว ใส่น้ำแล้วฉีดพรม รีดเสื้อทั้งตัวได้สบาย แนะนำให้หาซื้อขวดสเปรย์เปล่า (ไดโซขาย ๖๐ บาท) พกคู่กัน

*** คำเตือน *** อย่าใช้งานหนักนะครับ มันเอาไว้ใช้พกพาฉุกเฉิน ใช้เสร็จอย่าลืมถอดปลั๊กด้วยครับ ป้องกันไฟไหม้ (แม้ตัวนี้จะมีระบบตัดไฟช็อตอัตโนมัติก็ตาม)

วันอังคารที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2558

[FFX] การเก็บท่า Overdrive ของ Khimari

เรียงตามลำดับที่พบในเกมส์

Jump
มีตั้งแต่ต้น


Seed Cannon
(ได้อัตโนมัติตามเนื้อเรื่อง) เก็บได้ที่ป่าคิลิก้า


Self Destruct
เก็บได้ที่ถนนมีเฮ็น



Fire Breath
เก็บได้ที่ถนนมีเฮ็น



Stone Breath
เก็บได้ที่โจเซ่



Thrust Kick
เก็บได้ที่บีเวล



Mighty Guard
เก็บได้ที่ภูเขากากาเซ็ท



White Wind
เก็บได้ที่ถ้ำท้ายภูเขากากาเซ็ท





ตอนสู้กับบีแรนและเยงเค่ที่ภูเขากากาเซ็ท สามารถเก็บได้หลายท่า
ข้อแม้คือ อยากได้ท่าไหน ต้องรอให้มันใช้ก่อน
ถ้าเก็บท่าอื่นมาก่อนแล้ว ก็จะเหลือให้เก็บอีก ๒ ท่า คือ Mighty Guard และ White Wind


Doom
เก็บได้ที่ถ้ำโยจิมโบ




Aqua Breath
เก็บได้ที่ป่ามาคาลาเนีย


Bad Breath
เก็บได้แถวมุมขวาบนของคาล์มแลนด์


Nova
เก็บได้ที่ซากโบราณสถานโอเมก้า




อ้างอิง
http://akirstymoment.com/2014/04/03/final-fantasy-x-kimahri-lancet-guide/












วันพุธที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

บันทึกคำสาปแช่งของเสด็จเตี่ย "ปลอม"

เห็นมาหลายครั้งแล้วครับ กับบันทึกเสด็จเตี่ย ที่หลายคนเอามาอ้างถึงอยู่บ่อยๆ วันนี้ขอนำหลักฐานมาเพื่อสำหรับใช้อ้างอิงต่อไปครับ
...
บันทึกนี้ ทางกองทัพเรือเคยทำหนังสือเลขที่ กห0501/1889 สอบถามไปยังราชสกุลอาภากร เพื่อให้ตรวจสอบบันทึกดังกล่าว ได้รับการยืนยันตอบกลับมาเมื่อ 3 มกราคม 2545 ว่าไม่ใช่บันทึกของกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ (ต้นราชสกุลอาภากร) แต่อย่างใด กองทัพเรือจึงไม่นำข้อความนี้บรรจุลงในหนังสืออนุสรณ์ หนังสือรุ่นหลักสูตรของ ทร. อีก และได้ออกบันทึกข้อความ เลขที่ กห0501/130 เพื่อแจ้งประชาสัมพันธ์แล้ว
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
สอบถามข้อมูลที่ กองประวัติศาสตร์ กรมยุทธการทหารเรือ
(โทร. ๐๒-๔๗๕-๔๖๖๘)


...
ของปลอม ก็คือของปลอมครับ
อย่าเอามาใช้อ้างว่า ทำให้คนเกรงกลัว
พวกเราโตกันแล้ว แถมหมดยุคผู้ใหญ่เอาตุ๊กแกมาหลอกกินตับเด็กแล้วครับ เรามาคุยกันด้วยเรื่องจริงและหลักเหตุผลดีกว่า

ผู้บริหารสันดานเสมียน

บ่อยครั้งที่เราพบว่า ผู้บริหารชอบลงไปจุกจิกจู้จี้งานระดับเล็ก กระทั่งการ "เสิร์ฟน้ำ" นัยว่าท่านคงสับสนอะไรสักอย่างระหว่าง "ละเอียดลออในงานที่ทำ" กับ "ทำงานที่ไม่ใช่หน้าที่ตัวเอง" นี่คือที่มาของคำว่า "ผู้บริหารสันดานเสมียน" ... อย่าลืมว่าหน้าที่ผู้บริหารคือบริหาร - ไม่ใช่ปฏิบัติ ... นี่คือปัญหาขององค์กรที่ผู้บริหารไม่รู้จักหน้าที่ของตัวเอง ทำให้เสียเวลาไปในงานไร้สาระเสียมาก

จริงๆ แล้วมันควรจะเป็นอย่างไร? ลองมาดูแผนผังนี้กันครับ


จากรูป ถ้าเราแยกบุคลากรออกเป็นส่วนๆ จะพบว่า หน้าที่ของแต่ละคนในองค์กรไม่เหมือนกัน อธิบายได้ดังนี้ครับ
๑. ผู้บริหารระดับสูง - มีหน้าที่คิดให้เยอะๆ คิดให้มากที่สุดในหน่วย เก่งการบริหารคนมากที่สุด ไม่จำเป็นต้องเก่งงานเท่าไหร่ (แต่ต้องเก่งบ้าง)
๒. ผู้บริหารระดับกลาง - มีหน้าที่คิดพอสมควร เก่งในการใช้งานคน และตนเองต้องเก่งงานพอสมควร
๓. ผู้บริหารระดับต้น - มีหน้าที่คิดเพียงเล็กน้อย แต่ก็ต้องเก่งในการใช้งานคน และตัวเองต้องเก่งทำงานให้มากๆ
๔. ผู้ปฏิบัติ - มีหน้าที่ปฏิบัติอย่างเดียว รับผิดชอบงานในเทคนิคของตนให้ดีที่สุด (ไม่จำเป็นต้องคิดหรือบริหารในภาพรวมขององค์กร)

สำหรับตำรวจหรือทหาร 
ผู้บริหารระดับสูง = นายพล
ระดับกลาง = นายพัน
ระดับต้น = นายร้อย
ผู้ปฏิบัติ = ชั้นประทวน

ตัวอย่างเช่น การที่นายพลลงมาโบกรถเองที่ถนน นอกจากจะเป็นการใช้บุคลากรผิดฟังก์ชั่นแล้ว ยังเป็นการสุ่มเสี่ยงที่จะเสีย "แม่ทัพ" อย่างเปล่าๆ ปลี้ๆ ด้วย สมมติว่ามีคนเมาขับรถมาชนท่านกระเด็น แล้วใครจะมาสั่งการลูกน้องท่านต่อ? แทนที่เวลาชั่วโมงนึงท่านจะสามารถบริหารการจราจรได้ทั้งจังหวัด แต่ท่านกลับบริหารการจราจรได้แค่แยกเดียว ท่านรู้ตัวหรือเปล่าว่ากำลังทำงานที่ไร้ประสิทธิภาพอยู่นะครับ

หรือจะเล่าประสบการณ์ตรงที่ผมเจอ ในการประชุมครั้งหนึ่ง นายพลลงมาควบคุมการเสิร์ฟน้ำเอง ทั้งที่ความจริงท่านสามารถสั่งการชั้นประทวนให้ช่วยดูแลตรงนี้ได้ ผลก็คือ ท่านเสิร์ฟน้ำให้ผู้ใหญ่ได้ครบทุกคน แต่ไม่ได้อยู่ตอบคำถามนาย ทำให้นายตำหนิว่าไม่รู้จักหน้าที่ 

การถืองานมาก (แต่เป็นแบบไร้สาระ) ทำให้กินเวลางานอื่นๆ จนเสียไปหมด และมันจะกลายเป็นลูกโซ่ต่อเนื่องไปเรื่อยๆ เพราะว่าบริหารงานไม่เป็นนั่นเอง

อ้างอิง ...     https://www.facebook.com/Thisispopstory

วันพฤหัสบดีที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

กฎ 80/20

บนโลกนี้มี "กฎ 80/20" อยู่ในทุกเรื่อง หมายความว่า จริงๆ แล้วมีสิ่งสำคัญสำหรับคุณแค่ 20% และที่เหลืออีก 80% คือสิ่งไม่สำคัญ
มีคนบนโลกนี้ประสบความสำเร็จเพียงร้อยละ 20
มีคนรวยร้อยละ 20
ทำไมคุณถึงไม่ประสบความสำเร็จสักที? ก็เพราะคุณทำตัวเองให้อยู่ในส่วน 80 นั้นเอง
หากคุณเข้าใจกฎนี้ และรู้จักวางตัวเองไว้ในส่วนของ 20 ที่อยุ่บนยอด คุณก็จะสามารถประเมินสถานการณ์ และรู้ว่าอย่างไหนควรทำไม่ควรทำ


"ลำดับความสำคัญของงาน มี 5 ประเภท ABCDE"
A สำคัญที่สุด คุณต้องทำเองเท่านั้น ไม่ทำไม่ได้
B สำคัญรองลงมา คืองานที่ควรทำ
C งานที่เลือกทำได้ ไม่ค่อยมีผลกับชีวิตคุณเท่าไหร่นัก (ถ้าทำก็ดี)
D งานที่โยนให้คนอื่นทำได้ ถึงคุณไม่ทำโลกนี้ก็ไม่แตกสลาย
E งานที่ทิ้งไปได้เลย งานกาก งานขยะ

อย่าคิดว่าทุกงานเป็น A หมด จงแบ่งเบาภาระให้คนอื่นบ้าง แล้วคุณจะมีเวลาเพิ่ม
งานที่คุณควรทำให้กับหน่วยงาน จริงๆ แล้วมีแค่ 3 อย่าง อย่าไปทำทุกอย่าง

ที่มา... หนังสือ "กินกบตัวนั้นซะ"

วันพฤหัสบดีที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

หนังสือเปียกน้ำ ทำไงให้เรียบเหมือนเดิม?

หน้าฝนแบบนี้ ถ้าหนังสือต้องเปียกน้ำ ทำอย่างไรดี?

หากหนังสือเปียกน้ำไม่มาก ให้ใช้มือลูบกระดาษให้เรียบก่อน แล้วนำไปวางในช่องแช่แข็งในตู้เย็นประมาณ 1 วัน โดยวางให้ส่วนที่มีด้านเปียกอยู่ด้านบน ก่อนหาของแข็งมาทับ แต่ต้องระวังอาหารกลิ่นแรงในตู้เย็นที่อาจจะติดหนังสือได้ และต้องไม่วางซ้อนกันเด็ดขาด เพราะอาจทำให้หนังสือติดกันได้ แล้วจะได้หนังสือที่มีแผ่นกระดาษเรียบๆ เหมือนเดิม
ซึ่งสาเหตุที่กระดาษเรียบได้นั้น ก็เพราะว่าเมื่อกระดาษเปียกน้ำเจอความเย็น โมเลกุลของน้ำจะขยายตัว ช่องว่างในกระดาษจะมีการเรียงตัวใหม่ กระดาษก็เลยเรียบเนียนเหมือนเดิมนั่นเอง
หากไม่มีตู้เย็น ให้ซับหน้าหนังสือทีละหน้าแล้วค่อยๆคลี่ออก จากนั้นจึงโรยแป้งเด็กบนกระดาษทุกหน้าและเกลี่ยให้เสมอกัน แล้วจึงนำไปวางในที่แห้งๆ หาของหนักทับ และทิ้งไว้ประมาณ 2-7 วัน ส่วนระยะเวลาที่หนังสือจะกลับคืนสภาพเดิมนั้น ก็ขึ้นอยู่กับความชื้นในอากาศ
ถ้าหนังสือเปียกมาก ให้ใช้ผ้านุ่มๆซับน้ำออกเบาๆ แล้วสอดกระดาษที่ไม่มีหมึกและสารละลายน้ำไว้ระหว่างหน้าที่เปียก เสร็จแล้วให้วางของหนักทับ โดยต้องหมั่นเปลี่ยนกระดาษสอดทุกๆ 30 นาที
ซึ่งต้องรีบทำทันที อย่าทิ้งไว้นาน เพราะถ้าเปียกน้ำนานๆจะเกิดเชื้อรา ซึ่งสามารถเจริญเติบโตได้ในบริเวณที่มีความชื้น อยู่ติดต่อกันเป็นเวลา 24-48 ชั่วโมง
ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก MB Publishing

วันจันทร์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2557

วิธีผูกผ้าพันคอและเน็คไท

มีหลายแบบมากนะครับ ลองดู เหมาะสำหรับคลินิกหรือสถานเสริมความงามที่ต้องการวิธีผูกผ้าพันคอแบบดูดีเหมือนแอร์โฮสเตสมากๆ

ตัวอย่าง


ที่มา
http://topicstock.pantip.com/woman/topicstock/2008/04/Q6508065/Q6508065.html