บ่อยครั้งที่เราพบว่า ผู้บริหารชอบลงไปจุกจิกจู้จี้งานระดับเล็ก กระทั่งการ "เสิร์ฟน้ำ" นัยว่าท่านคงสับสนอะไรสักอย่างระหว่าง "ละเอียดลออในงานที่ทำ" กับ "ทำงานที่ไม่ใช่หน้าที่ตัวเอง" นี่คือที่มาของคำว่า
"ผู้บริหารสันดานเสมียน" ... อย่าลืมว่าหน้าที่ผู้บริหารคือบริหาร - ไม่ใช่ปฏิบัติ ... นี่คือปัญหาขององค์กรที่ผู้บริหารไม่รู้จักหน้าที่ของตัวเอง ทำให้เสียเวลาไปในงานไร้สาระเสียมาก
จริงๆ แล้วมันควรจะเป็นอย่างไร? ลองมาดูแผนผังนี้กันครับ

จากรูป ถ้าเราแยกบุคลากรออกเป็นส่วนๆ จะพบว่า
หน้าที่ของแต่ละคนในองค์กรไม่เหมือนกัน อธิบายได้ดังนี้ครับ
๑. ผู้บริหารระดับสูง - มีหน้าที่คิดให้เยอะๆ คิดให้มากที่สุดในหน่วย เก่งการบริหารคนมากที่สุด ไม่จำเป็นต้องเก่งงานเท่าไหร่ (แต่ต้องเก่งบ้าง)
๒. ผู้บริหารระดับกลาง - มีหน้าที่คิดพอสมควร เก่งในการใช้งานคน และตนเองต้องเก่งงานพอสมควร
๓. ผู้บริหารระดับต้น - มีหน้าที่คิดเพียงเล็กน้อย แต่ก็ต้องเก่งในการใช้งานคน และตัวเองต้องเก่งทำงานให้มากๆ
๔. ผู้ปฏิบัติ - มีหน้าที่ปฏิบัติอย่างเดียว รับผิดชอบงานในเทคนิคของตนให้ดีที่สุด (ไม่จำเป็นต้องคิดหรือบริหารในภาพรวมขององค์กร)
สำหรับตำรวจหรือทหาร
ผู้บริหารระดับสูง = นายพล
ระดับกลาง = นายพัน
ระดับต้น = นายร้อย
ผู้ปฏิบัติ = ชั้นประทวน
ตัวอย่างเช่น การที่นายพลลงมาโบกรถเองที่ถนน นอกจากจะเป็นการใช้บุคลากรผิดฟังก์ชั่นแล้ว ยังเป็นการสุ่มเสี่ยงที่จะเสีย "แม่ทัพ" อย่างเปล่าๆ ปลี้ๆ ด้วย สมมติว่ามีคนเมาขับรถมาชนท่านกระเด็น แล้วใครจะมาสั่งการลูกน้องท่านต่อ? แทนที่เวลาชั่วโมงนึงท่านจะสามารถบริหารการจราจรได้ทั้งจังหวัด แต่ท่านกลับบริหารการจราจรได้แค่แยกเดียว ท่านรู้ตัวหรือเปล่าว่ากำลังทำงานที่ไร้ประสิทธิภาพอยู่นะครับ
หรือจะเล่าประสบการณ์ตรงที่ผมเจอ ในการประชุมครั้งหนึ่ง นายพลลงมาควบคุมการเสิร์ฟน้ำเอง ทั้งที่ความจริงท่านสามารถสั่งการชั้นประทวนให้ช่วยดูแลตรงนี้ได้ ผลก็คือ ท่านเสิร์ฟน้ำให้ผู้ใหญ่ได้ครบทุกคน แต่ไม่ได้อยู่ตอบคำถามนาย ทำให้นายตำหนิว่าไม่รู้จักหน้าที่
การถืองานมาก (แต่เป็นแบบไร้สาระ) ทำให้กินเวลางานอื่นๆ จนเสียไปหมด และมันจะกลายเป็นลูกโซ่ต่อเนื่องไปเรื่อยๆ เพราะว่าบริหารงานไม่เป็นนั่นเอง